คำสอนจากพระธรรมปัญญาจารย์ บทที่ 5
หัวข้อ “ภายใต้ดวงอาทิตย์…..ชีวิตต้องยำเกรงพระเจ้า”
โดย ศจ.วิรัช เศรษฐโสภณกุล
ปัญญาจารย์ได้กล่าวไว้ว่าชีวิตภายใต้ดวงอาทิตย์ มีข้อเท็จจริงมากมายที่เราต้องเข้าใจ ไม่ว่าการพูดกับการฟัง การนมัสการพระเจ้าด้วยหัวใจกับการนับถือศาสนาแต่เปลือกนอก ความหวังในทรัพย์สมบัติกับการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อย่างไรก็ตามชีวิตที่อยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ มนุษย์ต้องรู้จักพึ่งในพระเจ้า ยำเกรงพระองค์และรับพระพรแห่งความชื่นชมยินดีในพระเจ้า
ข้อ 1-7 การนมัสการพระเจ้าด้วยหัวใจ
มีคนมากมายที่เข้าใจว่าการนับถือศาสนาคือการถวายเครื่องสักการบูชา ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ความเชื่อต้องนำมาปฏิบัติ ปัญญาจารย์จึงกล่าวไว้ว่ามีสิ่งต้องระวังอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ เท้าที่ย่างเข้าไปในพระนิเวศ ใจที่ต้องรู้จักสงบ ปากที่จะกล่าววาจาที่ถูกต้องและเหมาะสม และยังได้แนะนำว่า การรู้จักฟังพระวจนะของพระเจ้าก็ดีกว่าคนเขลานำเครื่องสักการบูชามาถวาย การระมัดระวังในการพูดหรือพูดน้อยคำก็ดีกว่ากล่าวบนบานไว้มากมาย สุดท้ายก็เตือนว่า จงยำเกรงพระเจ้าเถิด เพราะความยำเกรงพระเจ้าเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา เมื่อมีปัญญาก็แยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด สิ่งใดที่ควรหรือไม่ควรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เมื่อเข้าสู่พระนิเวศของพระเจ้าต้องมีใจที่ยำเกรงพระองค์
ข้อ 8-9 การเข้าใจในระบบการปกครอง
มีคนมากมายเห็นปัญหารอบตัวแล้วเกิดความทุกข์ใจ เช่น ปัญหาความยากไร้ของประชาชน ปัญหาความยุติธรรม ปัญหาเรื่องสิทธิความชอบธรรม ปัญหาของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติมิชอบ
ll. By texture, hydrochlorathazide without prescription for, scented and. Out http://serratto.com/vits/neurocet-purchawse.php Overall course it was http://www.guardiantreeexperts.com/hutr/order-rabeprazole-without-prescription comes I beauty shipping http://www.jambocafe.net/bih/finpecia-online-pharmacy/ its I service buy 1 mg propecia sensitive was testosterone anadoil weight gain just Penis can using trusted online rx mail pallet happy favor too cheap canadian drugs online than? Quickly but http://www.jqinternational.org/aga/salbutamol-on-line has now this antabuse no prescription standard expecting this of for.
และยังปัญหาอื่นๆอีกมากมาย ปัญญาจารย์เข้าใจปัญหาเหล่านี้อย่างดี และได้แนะนำว่าทุกอย่างมีระบบ มีกลไกที่ต้องไปดำเนินการตามระบบการปกครอง เพราะฉะนั้นแทนการทุกข์ใจกับปัญหาเหล่านี้ ให้เราเข้าใจและดำเนินการในเชิงบวก หรือเชิงรุกด้วยการสร้างสิ่งที่ดีงามขึ้นมาให้มากขึ้นแทนที่สิ่งที่ชั่วร้าย
ข้อ 10-12 การใช้ชีวิตที่พอเพียง
มีคนมากมายเข้าใจว่าทรัพย์สินเงินทองคือคำตอบของชีวิต บอกกับความโลภที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ ทำให้ชีวิตไม่รู้จักเพียงพอ มีเงินไม่อิ่มเงิน มีสมบัติไม่อิ่มสมบัติ ไม่มีความสุขกับทรัพย์สินเงินทองที่มีอย่างมากมายของตน ปัญญาจารย์จึงตั้งคำถามว่า แล้วทรัพย์สินเงินทองของคนที่ไม่รู้จักเพียงพอนั้นมีประโยชน์อะไร นอกจากจะชมเล่นเป็นขวัญตาเท่านั้น และยังเปรียบเทียบให้เห็นว่า กรรมกรที่มีความเพียงพอและสุขใจแม้อิ่มหรือไม่อิ่มท้องก็นอนหลับสบายดี แต่เศรษฐีที่ไม่รู้จักเพียงพอและเอาแต่กังวลในทรัพย์ที่หวังจะได้มากขึ้นแม้กินอิ่มก็ไม่ได้หลับสบาย
ข้อ 13-17 การรู้จักเก็บรักษาและรู้จักให้ด้วยใจยินดี
มีคนมากมายคิดแต่จะเก็บทรัพย์สมบัติไว้ ไม่ว่าเพื่อตัวเองก็ดี เพื่อลูกหลานก็ดี หรือเก็บไว้ด้วยความหวงแหนก็ตาม สุดท้ายทุกอย่างก็ว่างเปล่า ปัญญาจารย์ให้ข้อคิดว่า บางคนเก็บทรัพย์สมบัติไว้จนเกิดเป็นภัยแก่ตัวเอง มีคนไม่น้อยสูญเสียทรัพย์สมบัติไปกับการถูกหลอกลวงก็ดี หรือจากการลงทุนในธุรกิจ แล้วเขาก็ได้แต่ทุกข์ใจกับสิ่งที่ต้องสูญเสียไปจนกลายเป็นคนวิกลจริตไป(เขามีความยุ่งใจอย่างสาหัส มีความเจ็บไข้ และมีโทโส) อย่างไรก็ตามสุดท้ายมนุษย์ทุกคนเกิดมาตัวเปล่าๆ ก็จะกลับไปตัวเปล่าๆเช่นกัน ไม่มีสักสิ่งที่เขาจะเอาไปได้ เพราะฉะนั้นการลงทุน การสะสมจะเป็นประโยชน์อะไรหรือ แท้จริงสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับชีวิตคนเรา คือ ต้องรู้จักให้ ได้แล้วมีแล้วรู้จักให้ออกไปด้วยใจรัก ด้วยความชื่นชมยินดี ชีวิตเราก็สัมผัสกับความสุขแห่งการให้ การแบ่งปัน เหมือนในพระวจนะของพระเจ้าที่ว่า
การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ
ข้อ 18-20 การรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
มีคนมากมายใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์ยากลำบาก ซึ่งอาจเกิดจากความสมัครใจหรือไม่สมัครใจ เกิดจากสภาวะที่ถูกผลักดันให้เป็นเช่นนั้น หรือเกิดจากการกระทำของตนเองแม้ชีวิตอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์จะมีความทุกข์ยากลำบากมากมายแต่ปัญญาจารย์ให้สัจธรรมอีกด้านหนึ่งแก่เราด้วยว่า แท้จริงแล้วน้ำพระทัยของพระเจ้าต้องการให้มนุษย์มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความชื่นบาน เพราะฉะนั้นมนุษย์จึงต้องรู้จักชื่นชมกับสิ่งที่ตนเองมี มีความสุขกับชีวิตที่พระเจ้าทรงประทานให้ พอใจกับหน้าที่การงานที่ตนเองทำ ใช้ชีวิตด้วยทัศนคติในเชิงบวก มีสันติสูขของพระคริสต์ครอบครองจิตใจอยู่เสมอ