“พระเยซูทรงรักคนบาป”
จากพระธรรมมัทธิว 9:9-13
เทศนาโดย ครูศาสนา ดร. วิริยะ ทิพยวรการกูร
อาจารย์ประจำหมวดพันธสัญญาใหม่
=================
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม สิ่งที่ทุกคนโหยหา ปรารถนา
- รักคนที่น่ารัก นิสัยดี ไม่ยาก
- รักคนแปลกหน้า ยากขึ้น เพราะเราไม่รู้จัก
- รักที่ยากที่สุด รักศัตรู รักคนที่ไม่น่ารัก คนที่เราไม่ชอบ รักไม่ลง
แต่สิ่งที่พระเยซูทำกับมัทธิวซึ่งเป็นบทเรียนเรื่องความรักให้กับเรา มีดังนี้
1. พระเยซูเรียกคนบาป (ให้โอกาสคนบาป)
- ทรงเห็นมัทธิวแล้วเรียก “จงตามเรามาเถิด” พระองค์ทรงสนใจ เอาใจใส่กับคนที่สังคมรังเกียจ คนบาป (มองว่าเป็นคนขายชาติ ทรยศชาติ) ทั้ง ๆ ที่คนทั่วไปเห็นมัทธิวก็ร้องยี้แล้ว เห็นสิ่งที่เขาทำ ความผิดที่เคยทำ
- เหมือนเวลาคนเราเห็นคนทำผิด หรือเห็น Clip คนทำผิด ก็มีอคติไปแล้ว
- แต่พระเยซูทรงเห็นภายใน ลึกกว่าที่เรามอง มองเห็นสิ่งที่มัทธิวขาด มองความสุขแท้ที่ขาด มองว่าเป็นคนป่วย ต้องรับการรักษา
- คนทั่วไปไม่โอเคกับเขา ไม่สนใจเขา แต่พระเยซูให้โอกาส เห็นว่าเขาคือคนบาปที่กลับใจได้ มีความหวังในมัทธิว ไม่ว่าในอดีตจะผิดผลาดมาขนาดไหน
- พระเยซูมองไม่เหมือนกับที่เรามอง เรามักจะมองภายนอก แต่พระเยซูมองที่แก่นสารภายใน มองเห็นเนื้อแท้ มองด้วยความสงสาร ด้วยความเมตตา มองด้วยความหวัง ไม่ใช่การพิพากษา
- ไม่เพียงแต่มองเห็นมัทธิวเท่านั้น แต่ทรงเรียกให้ติดตามด้วย
- พระองค์ไม่ได้เลือกคนเก่ง คน Profile ดี คนที่เอาจริงเอาจังกับพระเจ้า หรือคนดีในสายตาเรา แต่ทรงเลือก รัก ให้อภัย และให้โอกาสคนบาป
- อย่าทับถมตัวเอง (ถ้าเรารู้สึกบาป) อย่ายึดติดกับอดีต ความผิดพลาด ล้มเหลวที่เราทำ หรือความรู้สึกผิด ไม่ให้อภัยตนเอง
- อย่ายึดติดกับสิ่งที่คนอื่นมอง ทับถม หรือที่คนอื่นว่า หรือไม่ให้อภัยเรา
- อย่ากลัว อย่ากังวล อย่าสงสัย พระเยซูมาเรียกคนบาปให้กลับใจ เรามีความหวังได้ในพระเยซู
- ใส่ใจกับพระเยซู ผู้ทรงห่วงใย ยอมรับ ให้เกียรติเรา มีความเมตตา และความหวังในตัวเรา พระองค์รอเราอยู่ ขอให้เรากลับมา
- ให้โอกาสคนอื่น (ถ้าเห็นว่าเขาผิด) อย่ายึดติดกับสิ่งที่ตามอง อย่าไวในการพิพากษาคนอื่น ว่าใครรอด ไม่รอด มีความหวังหรือไม่มีความหวัง ขาดความเมตตา
- แต่ในขณะเดียวกันก็อย่ามองความผิดความบาปเป็นเรื่องเล็ก ต้องมีวิธีที่เหมาะสมในการจัดการ เข้มงวดด้วย
- แต่ทั้งนี้เราต้องมองถึงความรักของพระเยซูที่ให้โอกาสเสมอเมื่อกลับใจ
- พระองค์ยอมให้คนผิดติดตามพระองค์ เราอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าใครใช้การได้ หรือไม่ได้ อย่าเพิ่งรีบหมดหวังกับคนที่ผิดพลาดล้มเหลว แต่เปิดช่องเสมอว่า พระเจ้าอาจทรงใช้การเขาได้ หากเขาจะกลับใจจริงและตั้งตัวใหม่ นี่คือฤทธิ์เดชของข่าวประเสริฐ
2. พระเยซูทรงกินกับคนบาป (ให้ความรัก ความผูกพัน)
- พระเยซูติดตามมัทธิวเข้าไปกินข้าวด้วยกันในบ้าน หรืออีกแง่หนึ่งมัทธิวยอมเชิญให้พระองค์เข้ามาในบ้าน
- พระเยซูทรงอยู่ร่วมกับสังคมของมัทธิว ครอบครัว เพื่อน ๆ
- คนที่เรารักเราก็อยากเปิดเผยโลกส่วนตัวของเราให้รู้จัก
- การกินข้าวเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าส่วนซึ่งกันและกัน เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
- เราอยากพาพระเยซูมารู้จักโลกส่วนตัวของเราบ้างไหม แนะนำคนสนิท คนในครอบครัวให้รู้จัก เชิญเข้ามาในบ้าน ในห้องส่วนตัว
- เรายอมเปิดเผยความอ่อนแอของเรา ปัญหา ความผิดบาปที่ซ่อนเร้น ให้พระองค์ได้เข้ามาเห็นและจัดการไหม
- พระเยซูยินยอมที่จะเข้ามาผูกพันมีชีวิตอยู่กับคนบาป กินข้าว ใช้เวลา อย่างเปิดเผย ไม่อาย ไม่รังเกียจ
- โดยปกติแล้วเรามักจะเลือกคนคบ คนที่ไว้ใจ สบายใจ นิสัยคล้ายกัน ช่วยเหลือ พึ่งพาได้ ฯลฯ
- แต่บทเรียนนี้บอกเราว่าเราต้องเปิดโอกาสให้คนที่แตกต่างจากเรา หรือคนที่เราไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนกับเขาได้
- การอยู่ร่วมกับความแตกต่างนั้นไม่ง่าย วิถีชีวิตของมัทธิวไม่น่าดึงดูดพระเยซูให้เข้ามาร่วมวงได้เลย
- แต่พระเยซูรักและมีความหวังใจ ยอมที่จะรับคำวิจารณ์ ทรงยอมอดทน สิ่งนี้เป็นความรักที่พระองค์มอบให้
- เราเองก็ควรอดทนกับคนอื่นที่ไม่น่ารักเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่ไม่น่ารัก หรือความผิดพลาดที่เขาทำ
- เสียสละ ใช้เวลากับคนที่ต่างจากเรา
- เปิดโอกาสให้ตัวเองอยู่ในโลกของคนอื่น และเปิดโอกาสให้เราเป็นพรให้กับคนอื่นได้บ้าง
3. พระเยซูแก้ต่างให้คนบาป (ให้ความเมตตา รักษา)
- พระเยซูตั้งใจทำสิ่งดี ให้ความหวังแก่คนบาป แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์
- พวกที่ตำหนิวิพากษ์วิจารณ์กลับเป็นบรรดาผู้นำ อาจารย์ผู้สั่งสอนเสียเอง
- พระเยซูแก้ต่างว่า ทรงมาเพื่อเรียกคนบาป ไม่ใช่คนชอบธรรม
- เพราะคนเหล่านั้น คิดว่าตัวเองชอบธรรม คิดว่าตัวเองแข็งแรง รู้แล้ว ดีแล้ว ไม่ได้ต้องการการรักษา ไม่คิดว่าตนเองบาป ไม่ต้องการพระเยซู
- ระมัดระวังในการทำตัวหลงผิด ตัดสิน วิจารณ์คนอื่น
- อย่าเป็นคนที่สอนไม่ได้ เตือนไม่ได้ (เตือนแล้วโกรธ เตือนแล้วงอน)
- อย่าคิดว่าตนเองรู้แล้ว เก่งแล้วดีแล้ว
- อย่าหลงกับตำแหน่ง คิดว่าเป็นผู้นำ เป็นครู อาจารย์ พี่เลี้ยง นักเทศน์ ผู้ให้ หรือตำรวจจับผิดคนอื่น หรือผู้คุมกฏ ฯลฯ แล้วมองคนอื่นแย่กว่า อย่าให้คำชื่นชมหลอกเรา
- เราทุกคนเป็นคนบาป อ่อนแอ ต้องการพระเมตตาของพระเจ้า
- คนที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นคนบาป ไม่สำนึกบาป จะกลายเป็นคนเย่อหยิ่ง วิจารณ์เก่ง ชอบสั่ง ชอบเตือน ชอบพูด ชอบสอน ไม่เข้าใจคนผิด ไม่เข้าใจคนบาป
- คนที่สำนึกว่าเป็นคนบาป ่อ่อนแอ จะพึ่งพระคุณพระเจ้าเสมอ ไม่กล้าพูดมาก ไม่วิจารณ์มาก ไม่สอนคนอื่นมาก (แต่จะเห็นใจ และพยายามเข้าใจคนผิด คนบาป)
- สำรวจตัวเองเสมอ อธิษฐานอยู่เสมอ เปิดใจฟังคำแนะนำ คำเตือนสติของผู้อื่นเสมอ
- อย่าเน้นแต่พิธีกรรม เน้นทักษะ เน้นกฏเกณฑ์ แต่ละเลยสิ่งที่สำคัญกว่า คือความรัก ความเมตตา
- การเน้นแต่กฏเณฑ์ต่าง ๆ โดยไม่พยายามทำความเข้าใจ ใช้ความรักความเมตตา จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นคนที่ใช้การไม่ได้เลย
- หากเราทำสิ่งดีกับผู้อื่น แล้วมีคนวิจารณ์ อย่าเพิ่งท้อใจ พระเยซูก็ถูกวิจารณ์
- ความรักความเมตตา ฝึกฝนได้ พัฒนาได้ หากเราเห็นคุณค่าและความสำคัญ และด้วยใจจริงต่อพระพักตร์พระเจ้า
สิ่งที่เราควรตั้งใจทำจากบทเรียนนี้
- ตั้งใจสนใจคนอื่นให้มาก คนอ่อนแอ คนเล็กน้อย คนมีทุกข์
- ตั้งใจอดทนต่อคนอื่น หรือเสียสละบางสิ่งเพื่อเห็นแก่คนอื่น
- ตั้งใจยอมให้อภัยต่อผู้อื่นที่ทำผิดกับเรา ทั้งตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ
- ตั้งใจลดทิฐิ ยอมขอโทษเมื่อทำผิดต่อคนอื่น
- ตั้งใจใส่ใจคนที่สังคมรังเกียจ คนที่เคยทำผิด คนที่ถูกประณาม หรือเป็นเพื่อนกับคนที่ไม่มีเพื่อน
- ตั้งใจรักคนที่เราไม่ชอบ คู่แข่ง คู่กัด คนนิสัยไม่ดี
- ตั้งใจมีชีวิตที่เป็นพรกับผู้อื่นได้มากขึ้น
- เช่นเมื่ออยู่ ปี 4 ต้องมีความรักมากกว่าปี 1 ครู เจ้าหน้าที่ ต้องมีความรักมมากกว่านักศึกษา หรือถ้าอายุมากขึ้น จะต้องมีึความรักมากกว่าวันนี้